Sunday, August 23, 2015

ถ้อยคำจำนรรจาเอาไว้เขียนการ์ดไปหาเพื่อนที่เจ็บไข้ได้ป่วย

ถ้อยคำจำนรรจาเอาไว้เขียนการ์ดไปหาเพื่อนที่เจ็บไข้ได้ป่วยเวลาอยู่ประเทศเขตเมืองที่พูดภาษาอังกฤษ 
1. Get well soon. หายไว ๆ นะ
2. I hope you make a swift and speedy recovery. 
ฉันหวังว่าเธอจะหายไว ๆ นะ (ฉันขอให้เธอหายไว ๆ นะ)
3. We hope that you will be up and about in no time. 
พวกเราหวังว่าเธอจะหายไว ๆ นะ (พวกเราขอให้เธอหายไว ๆ นะ)
4. Thinking of you. Hope you feel better soon.
กำลังคิดถึงเธออยู่นะ (กำลังนึกถึงเธออยู่นะ) หวังว่าเธอจะรู้สึกดีขึ้นเร็ว ๆ นี้นะ
5. Get well soon. Everybody here is thinking of you.
หายไว ๆ นะ ทุกคนที่นี่กำลังคิดถึงเธออยู่นะ (ทุกคนที่นี่กำลังนึกถึงเธออยู่นะ)
www.facebook.com/AlifSilpachai


คำถามเอาไว้เตือนเพื่อนก่อนออกจากสถานที่ที่หนึ่ง

คำถามเอาไว้เตือนเพื่อนก่อนออกจากสถานที่ที่หนึ่ง โดยเฉพาะเวลาที่คุณอยู่ประเทศเขตเมืองที่พูดภาษาอังกฤษ 
1. Did we forget anything? เราได้ลืมอะไรมั้ย
2. Is your phone with you? โทรศัพท์อยู่กับตัวยูมั้ย* 
3. Where is your purse? กระเป๋าหิ้วของยูอยู่ไหน (กระเป๋าหิ้วของผู้หญิง)
4. Did you find your wallet?เจอกระเป๋าตังค์ยัง (~กระเป๋าสตางค์)
5. Where is the car key? กุญแจรถอยู่ไหน
*สมัยนี้ ไม่จำเป็นต้องพูดว่า cell/mobile phone คนก็เข้าใจอยู่แล้วว่าพูดถึง โทรศัพท์มือถือ
www.facebook.com/AlifSilpachai


เวลาอยู่แว่นแคว้นแดนดินอเมริกัน หลังจากที่มีคนจาม เราควรที่จะต้องพูดว่าอะไรบ้างกับเขา

เวลาอยู่แว่นแคว้นแดนดินอเมริกัน หลังจากที่มีคนจาม เราควรที่จะต้องพูดว่าอะไรบ้างกับเขา
1. Bless you!
แปลประมาณว่า “ขอให้พระคุ้มครองนะ” ปัจจุบัน เวลาคนพูด มักจะไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับพระเจ้าหรือศาสนา มันเป็นแค่สำนวน
เป็นสำนวนที่ทำให้คนไทยหลายคนงง มักใช้หลังจากที่มีคนจาม เป็นคนแปลกหน้าก็ได้ ขอเน้น จาม ไม่ใช่ ไอ
2. Thank you! 
ถ้าคนที่จามคนนั้นมีมารยาทพอ เขาก็จะตอบว่า “ขอบคุณ”
ถ้าคุณเป็นคนที่จามเองและมีคนบอกว่า bless you คุณเองก็ต้องบอกขอบคุณกับเขาเหมือนกันตามมารยาท
3. You’re welcome.
และแน่นอนเมื่อคนบอกว่า “thank you” เราก็ต้องบอกเขาว่า “you’re welcome” มิฉะนั้น เขาอาจจะมองว่าคุณเป็นคนที่ไร้มารยาท
4. Do you need a tissue?
“ยูต้องการกระดาษทิชชู่ไหม” ประโยคนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ โดยเฉพาะถ้าคุณไม่มีทิชชู่หรือว่ามีแต่ไม่อยากที่จะให้ใคร
ในสำเนียงอเมริกัน เราจะไม่ใช้เสียง ช ของไทย (ซึ่งคล้ายกับ ch มากกว่า) ออกเสียงคำนี้ซึ่งออกเสียงว่า “TISHoo”
www.facebook.com/AlifSilpachai


คำถามชวนคุยที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

เอาไว้ใช้ตอนหาเพื่อนฝรั่งใหม่
คำถามชวนคุยที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เอาไว้ใช้เริ่มต้นสนทนากับผู้คนเวลาอยู่ประเทศเขตเมืองที่พูดภาษาอังกฤษ
1. What countries have you traveled to? 
ยูเคยไปเที่ยวประเทศไหนมาบ้าง
2. Where was the last place you went on vacation? 
เวเคชั่นที่แล้ว ยูไปเที่ยวที่ไหนมา
3. If you could live anywhere in the world for a year, where would it be?
ถ้ายูอยู่ที่ไหนก็ได้ในโลกเป็นเวลาหนึ่งปี ยูจะเลือกอยู่ที่ไหน
4. Have you been to (ใส่ชื่อสถานที่) already?
ยูเคยไปเที่ยว_________มาแล้วหรือยัง
5. Where do you plan to go for your next vacation?
เวเคชั่นหน้านี้ ยูวางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหน


Saturday, August 22, 2015

“ไหนล่ะ หลักฐาน ขอดูหลักฐานหน่อย”

พ่อแม่ของคุณเคยสั่งสอนไม่ให้คุณเชื่ออะไรคนง่าย ๆ เพราะไม่อยากให้คุณโดนคนหลอก
พ่อแม่คุณสอนว่า ก่อนจะเชื่ออะไรใคร เราจะต้องดูหลักฐานก่อน
วันหนึ่ง มีคนคนหนึ่งพยายามจะบีบบังคับให้คุณเชื่อสิ่งที่่เขาพูด
แต่คุณพยายามฟังเขาหลายทีแล้ว ก็ยังคิดว่ามันไม่น่าจะใช่เรื่องจริง
คุณเลยอยากบอกเขาว่า “ไหนล่ะ หลักฐาน ขอดูหลักฐานหน่อย”
แต่ไม่รู้ว่าจะพูดว่าอย่างไร สิ่งที่คุณสามารถใช้ได้ก็คือ
“Can I see the evidence?” ขอฉันดูหลักฐานหน่อยได้ไหม
“Please show me the evidence.” กรุณาเอาหลักฐานมาให้ฉันดูหน่อย
“Where is the evidence?” หลักฐานอยู่ที่ไหน  www.facebook.com/AlifSilpachai


Friday, August 21, 2015

เวลาเพื่อนท้อแท้


ถ้อยคำจำนรรจาไว้ใช้บอกเพื่อนยามที่เขาท้อแท้ 
๑. Hang in there. อดทนหน่อยนะ
๒. Don't give up. อย่ายอมแพ้นะ
๓. Keep fighting! สู้ต่อไปนะ
๔. Stay strong. เข้มแข็งเข้าไว้นะ
๕. You can do it! เธอต้องทำได้นะ



เวลาเพื่อนกำลังเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างรุนแรง

ถ้อยคำจำนรรจาไว้ใช้เวลาเพื่อนกำลังเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างรุนแรง คำแนะนำโดยคุณ Candy Sagon จาก aarp.org. “Please” has been added 
สิ่งที่ควรพูด
1. I'm so glad to see you. ฉันดีใจมากจริง ๆ เลยที่ได้เจอเธอ
2. I'm so sorry you have to go through this. ฉันรู้สึกเสียใจมากที่เธอต้องทนทุกข์ทรมาน
3. Please tell me what's helpful and what's not. มีอะไรช่วยได้หรือไม่ได้ก็กรุณาบอกฉันมาด้วยนะ
4. Please tell me when you want to be alone, and when you want company.
เมื่อไรเธออยากอยู่คนเดียว หรืออยากให้มีใครมาเป็นเพื่อนก็กรุณาบอกฉันด้วยนะ
5. Please tell me what to bring and when to leave.
ช่วยบอกฉันด้วยนะ ว่าฉันควรเอาอะไรมา แล้วก็บอกด้วยนะ ว่าอยากให้ฉันกลับเมื่อไร
สิ่งที่ไม่ควรพูด
1. Is it terminal? นี่ระยะสุดท้ายหรือเปล่า
2. It could be worse. (แปลไม่ตรงตัวมาก) โชคดีแล้วที่ไม่เลวร้ายไปกว่านี้
3. Maybe it's in your head. สงสัยเธอคิดไปเองมั้ง
4. What do you think you did to cause it? เธอคิดว่าเธอไปทำอะไรมาถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้กับเธอขึ้นหรอ
5. (บอกกับคนอื่น) God must have wanted him/her. พระเจ้าคงต้องการอยากให้เขาขึ้นไปอยู่ด้วย
www.facebook.com/AlifSilpachai



I speak Thai. ไม่ต้องพูดว่า language

เวลาจะถามว่า
“ยูรู้ไหมว่า ห้องน้ำอยู่ที่ไหน” 
ควรเรียงประโยคแบบนี้
“Do you know where the restroom is?”

ไม่ใช่
“Do you know where is the restroom?”
(ซึ่งก็มีเจ้าของภาษาพอพูดบ้าง แต่การเรียงคำแบบนี้ เป็นการเรียงแบบไม่ได้ตามมาตรฐานภาษาอังกฤษ)

ป.ล. อย่าลืมว่า is ออกเสียงว่า iz.




Do you know where it is? vs do you know where is it?

เวลาจะถามว่า
“ยูรู้ไหมว่า ห้องน้ำอยู่ที่ไหน” 
ควรเรียงประโยคแบบนี้
“Do you know where the restroom is?”

ไม่ใช่
“Do you know where is the restroom?”
(ซึ่งก็มีเจ้าของภาษาพอพูดบ้าง แต่การเรียงคำแบบนี้ เป็นการเรียงแบบไม่ได้ตามมาตรฐานภาษาอังกฤษ)

ป.ล. อย่าลืมว่า is ออกเสียงว่า iz.



อย่าเห็นแก่ตัว


เวลาอยากบอกคนว่า “อย่าเห็นแก่ตัว” เพื่อให้เค้าหยุดเห็นแก่ตัวกับผู้อื่น
เราควรพูดว่า
“Don’t be selfish!”

ไม่ใช่
“Don’t selfish!”
เพราะว่า ถ้ามี don’t แล้ว เราก็จะต้องตามด้วยคำกริยา
เช่น “don’t go” ซึ่งแปลว่า “อย่าไป” โดยมี go ซึ่งเป็นคำกริยา 
แต่ selfish นั้น เป็นคำคุณศัพท์ เลยต้องมี be ซึ่งเป็นคำกริยามาช่วยเสริม


มารับฉันหน่อยได้มั้ย

เวลาจะให้ใครมารับ แล้วอยากพูดว่า
“มารับฉันหน่อยได้มั้ย” 
ควรพูดว่า
“Could you pick me up?” 
(หรือ “Can you pick me up?” หรือ ยาวหน่อยหรือ “Could you come and pick me up?”)
ไม่ใช่
“Can you receive me?”
(receive นี้เป็น การรับ คนละแบบกัน)
ป.ล. เติม please หน่อยก็จะดี จะได้สุภาพขึ้น แต่ออกเสียงว่า “pleez”.


ปลอบใจคน

เวลาปลอบใจใครบางคน 
ฝึกออกเสียง I'm กับคลิปนี้ได้ครับ: https://www.youtube.com/watch?v=ILOPMCJZwIU

ปัญหาในร้านอาหาร

ปัญหาในร้านอาหาร 
Is our meal on its way?
อาหารของพวกเรากำลังมาแล้วใช่มั้ยครับ/คะ
The food doesn't taste right.
อาหารมันรสชาติผิดปกตินะครับ/ค่ะ
The food's cold.
อาหารมันเย็นนะครับ/ค่ะ
The food is too salty.
อาหารมันเค็มไปนะครับ/ค่ะ
This isn't what I ordered.
ไม่ได้สั่งจานนี้ครับ/ค่ะ
We've been waiting for a long time already.
พวกเรารอมานานแล้วนะครับ/คะ
Will our food be long?
อาหารจะเสร็จอีกนานมั้ยครับ/คะ


I don't know, but I'll find out


“I don’t know, but I’ll find out for you.”


แอบชอบคน

ปัญหา: แอบชอบใครบางคน และพร้อมที่จะไปบอกเค้าตัวต่อตัว
วิธีแก้ไขวิธีหนึ่ง: บอกเค้าไปตรง ๆ เลยว่า
“นี่ยู ไอชอบยูอยู่นะ อยากไปออกเดทกันมั้ย” ซึ่งแปลว่า
“Hey! I like you. Wanna go out sometime?”
ถ้าเค้าปฏิเสธก็ดีเลย เพราะเราจะได้หยุดบ้าคลั่งแอบรักเค้าสักที

สิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้เค้าหวาดกลัวคุณอย่างแน่นอน โดยจะคิดว่าคุณเป็นไอ้พวกโรคจิต ก็คือ
๑) การที่จะเริ่มต้นว่า “ไอก็ไม่อยากทำให้ยูรู้สึกหวาดกลัวไอหรอกนะ แต่ว่า…”
ก็คือ “I don’t mean to be creepy, but...”
๒) การที่จะใช้ “นี่ยู ไอชอบยูนะ อยาก…” ประโยคเดิมนี่แหละ
แล้วส่งเป็นข้อความมือถือไปให้เค้า โดยที่เค้าไม่เคยได้ให้เบอร์มือถือของเค้ากับคุณมาเลย

Problems at a hotel

เวลาไปโรงแรมต่างประเทศแล้วมีปัญหา
1. I’ve lost my room key.
ผม/ดิฉันทำกุญแจห้องหายครับ/ค่ะ
2. The AC doesn't work.
แอร์ไม่ทำงานครับ/ค่ะ
3. There are no towels in my room.
ในห้องไม่มีผ้าเช็ดตัวเลยครับ/ค่ะ
4. The towels in my room are not clean.
ผ้าเช็ดตัวในห้องของผม/ดิฉันไม่สะอาดเลยครับ/ค่ะ
5. Could you please give me another blanket?
ผม/ดิฉันขอผ้าห่มอีกผืนหนึ่งได้ไหมครับ/ค่ะ
6. It's very noisy here.
ตรงนี้ เสียงดังมากครับ/ค่ะ 7. The room is very dark.
ในห้องมืดมากครับ/ค่ะ
8. The TV doesn't work.
ทีวีไม่ทำงานครับ/ค่ะ
9. There's no hot water in the bathroom.
ระบบน้ำร้อนในห้องน้ำไม่ทำงานครับ/ค่ะ
10. That room smells very bad.
ห้องห้องนั้นมีกลิ่นเหม็นมากครับ/ค่ะ
11. Can I get a different room?
ขอเปลี่ยนเป็นห้องใหม่ได้ไหมครับ/ค่ะ
facebook.com/AlifSilpachai


What was that? and huh?

พูดว่าอะไรนะ

พูดฟังอ่านเขียนภาษาอังกฤษไม่เป็น


Which one is cheaper?

ความรู้ทั่วไปที่ทุกคนควรรู้ครับ จะได้ไม่โดนหลอกเวลาไปซื้อของครับ
คุณกับเพื่อนต่างชาติของคุณไปซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วเค้าถามคุณว่า ซื้อน้ำมันมะกอกยี่ห้อไหนคุ้มกว่ากัน
ยี่ห้อที่ ๑: ราคา $2.49 น้ำหนัก 24 ออนซ์
ยี่ห้อที่ ๒: ราคา $2.99 น้ำหนัก 32 ออนซ์
คุณรู้คำตอบอยู่แล้วว่าต้องเป็น ยี่ห้อที่ ๒ เพราะยี่ห้อที่ ๒ นั้น ตกราคาประมาณ $0.09 ต่อออนซ์ 
แต่ยี่ห้อที่ ๑ นั้น ตกราคาประมาณ $0.10 ต่อออนซ์
คุณเลยอยากพูดเป็นภาษาอังกฤษประมาณว่า
“ยูต้องรู้ว่าราคาต่อหน่วยคืออะไร แค่ต้องรู้ว่า ราคา ÷ หน่วย (หน่วย คือ ออนซ์ในที่นี้) มันได้เท่าไร”
แต่ไม่แน่ใจว่าจะพูดว่าอย่างไร ดังนั้น คุณควรพูดว่า

“You have to calculate the unit price.
Just divide the price by the unit, which in this case is one ounce.”

พูดแค่นี้ แล้วก็เอามือถือออกมาคำนวนให้เพื่อนดูก็จบ



Problems with your computer

ปัญหาที่หลายคนมี เพื่อน ๆ เอาประโยคเหล่านี้ไปบอกช่างซ่อมคอมนะครับ grin emoticon

1. Downloads take forever.
ดาวน์โหลดใช้เวลานานมากเลยครับ/ค่ะ
2. I can’t open email attachments.
เปิดไฟล์แนบในอีเมลไม่ได้ครับ/ค่ะ
3. My computer is so slow.
คอมพิวเตอร์ของผม/ดิฉันช้าจังเลยครับ/ค่ะ
4. My favorite program isn’t working.
โปรแกรมที่ชอบใช้งานไม่ได้เลยอ่ะครับ/ค่ะ
5. My computer keeps on restarting itself.
คอมพิวเตอร์ของผม/ดิฉันชอบรีสตาร์ทเองอยู่เรื่อยเลยอ่ะครับ/ค่ะ
6. My printer won’t print.
ปรินเตอร์ของผม/ดิฉันปริ๊นอะไรไม่ได้เลยอ่ะครับ/ค่ะ
7. My Wi-Fi keeps disconnecting.
Wi-Fi ของผม/ดิฉันหลุดบ่อยมากเลยอ่ะครับ/ค่ะ
8. Pop-up ads keep on appearing on my screen.
โฆษณาป๊อปอัพชอบขึ้นมาเต็มจอของผม/ดิฉันเลยอ่ะครับ/ค่ะ
facebook.com/AlifSilpachai




เจอเส้นผมที่ร้านอาหาร

คุณกำลังอยู่ที่ร้านอาหารในสหรัฐอเมริกา
เพื่อนชาวต่างชาติของคุณเจอเส้นผมในอาหาร
และกำลังจะบอกให้พนักงานเสิร์ฟให้มาเปลี่ยนจานให้
แต่คุณอยากบอกเค้าว่า “เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งบอกเค้า เอาเกลือมาใส่เยอะ ๆ ก่อน จะได้รู้ว่า เค้าจะเอาจานเดิมมาให้เราหรือไม่”
แต่คุณไม่รู้ว่าจะบอกว่าอะไร คุณควรบอกเค้าแค่นี้ไปก่อนว่า
“Wait, don’t tell them yet!
You should heavily salt the dish first to make sure you get a new one!”

Do you need a hand?

เพื่อนกำลังถือของเต็มไปหมดเลย 
คุณอยากช่วย แต่ไม่รู้จะบอกเค้าว่าอะไร
เริ่มต้นพูดแค่นี้ก่อนก็ได้
“Do you need a hand?”
ซึ่งแปลว่า “จะให้ฉันช่วยมั้ย” 
แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ต้องรอให้เค้าบอกว่า yes ก่อนก็ได้ เข้าไปช่วยเค้าเลยจะดีกว่า

Walk the talk

walk the talk v. (US)
ทำตามคำพูด, ทำตามคำมั่นสัญญา
เพื่อนสนิทมิตรสหายของคุณรับปากว่าจะช่วยเหลือคุณ และเค้าก็ทำตามที่เค้าพูด
คุณเลยอยากจะพูดว่า “ขอบคุณนะที่ทำตามคำพูด”
ถ้าอยากพูดแบบนั้น ก็ควรพูดว่า
“Thank you for walking the talk.”
www.facebook.com/AlifSilpachai

เวลาอยากจะบอกบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเพื่อน

คุณมีเพื่อนสนิทมิตรสหายคนหนึ่ง
คุณอยากจะบอกบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเค้า 
คุณอยากจะบอกเค้าตัวต่อตัวโดยเฉพาะในที่ที่ไม่มีคนอื่นได้ยิน
แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร แต่จำเป็นต้องบอกเค้ามาก ๆ เพราะเป็นห่วงจากใจจริง
เว็บ BreathMD แนะนำให้เริ่มต้นด้วยประโยคเหล่านี้ก่อนครับ มีตัวเลือก 4 ตัว
1) "I noticed a problem and wasn't sure if you're aware..."
2) "Sorry to mention this, but..."
3) "If I had this problem I would want someone to tell me..."
4) "I'm sorry, but..."
ยกตัวอย่าง
“I noticed a problem and wasn't sure if you're aware...
…you need to brush your teeth.”
“(แปลแบบไม่ตรงตัวมาก) มีปัญหานิดหน่อยอ่ะ และไอเนี่ย ก็ไม่แน่ใจว่ายูรู้ตัวบ้างมั้ย…คือว่า ยูต้องแปรงฟันหน่อยนะ”
(English sentences from breathmd.com)


Relationship problems


มีคนถามว่าทำไมคุณถึงเลิกคบกับแฟนเก่า
แต่ไม่แน่ใจว่าจะพูดอย่างไรในภาษาอังกฤษ
(he/she หมายความว่า ต้องเลือกสรรพนาม he หรือ she ส่วน his/her ก็เหมือนกัน)
1. He/she cheated on me.
เขามีชู้
2. He/she never trusted me.
เขาไม่เคยไว้เนื้อเชื่อใจฉันเลย
3. He/she never got over his/her ex.
เขายังไม่เลิกคิดถึงแฟนเก่าของเขา
4. He/she used me.
เขาหลอกใช้ฉัน
5. He/she was controlling.
เขาชอบบังคับและควบคุมชีวิตของฉัน (เขาชอบกำหนดชีวิตฉัน)

Pants vs shorts

ระวังสับสน 
pants = กางเกงขายาว*
shorts = กางเกงขาสั้น

*ไม่รวมสหราชอาณาจักรซึ่งใช้ trousers (ตัว s ทั้งสองตัวออกเสียงเป็น z) 
ในประเทศเขตเมืองของอังกฤษนั้น pants จะหมายถึง กางเกงใน


I'm not in a rush

“Take your time. I’m not in a rush.” 
คุณอยู่ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต กำลังต่อแถวอยู่ข้างหลังผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจ่ายเงินอยู่ 
หลังจากที่เธอได้รับตังค์ทอนและใบเสร็จ เธอก็เร่งรีบยัดตังค์ทอนและใบเสร็จใส่กระเป๋าตังค์
เธอกำลังเหงื่อแตกเพราะหวาดกลัวว่าคนข้างหลังแถวรวมทั้งคุณด้วย 
จะมาต่อว่าเธอว่าทำไมเธอชักช้าจัง แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ได้มีใครสนใจอะไรเลย 
คุณเลยอยากบอกเธอว่า “ไม่ต้องรีบหรอกนะยู ไอไม่ได้เร่งรีบอะไร”
แต่คุณไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี ขอแนะนำให้พูดว่า
“Take your time. I’m not in a rush.” เท่านี้ก็จะทำให้เค้ารู้สึกดีขึ้นแล้ว  www.facebook.com/AlifSilpachai


At that

ฝึกใช้ at that (อีกด้วย) ในบริบท
มีคนแปลกหน้าจากโลกออนไลน์กำลังจะขายของให้กับเพื่อนสนิทมิตรสหายของคุณ
เพื่อนคุณไม่เคยคุ้นเคยกับการซื้อขายของ และดูคุณภาพและราคาของของไม่ค่อยเป็นด้วย
คุณรู้ว่า สิ่งที่เพื่อนอยากได้นั้น เค้าขายกันถูกกว่านี้เยอะ แถมคุณภาพดีกว่าอีกด้วย
คุณเลยอยากบอกว่า “อย่าไปหลงกลเลย มันแพงมากเกินไป แถมเก่ามากอีกด้วย”
คุณไม่รู้จะพูดว่าอย่างไร คุณควรอย่างน้อยเริ่มพูดอย่างนี้ก่อนว่า

“Don’t fall for it.
It’s too expensive, and really old at that.”

ครั้นพูดเสร็จ ก็ให้เพื่อนดูว่า ที่อื่นเค้ามีดีกว่านี้จริง ๆ อย่าปล่อยให้เพื่อนหลงกล



Play and play with

วันนี้ มีคนไทยบอกผมว่า 
“I like to play with myself.”
(ซึ่งแปลว่า “ฉันชอบสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง” )
แต่ไม่แน่ใจว่า เค้าหมายถึงอย่างนั้นจริง ๆ หรือเปล่า หรือ เค้าหมายถึงอย่างนี้
“I like to play by myself.”
(ซึ่งแปลว่า “ฉันชอบเล่นคนเดียว”)
ครั้งหน้า กรุณาช่วยใช้ play with (oneself) กับ play by (oneself) ให้ชัดเจนหน่อยนะครับ
ผมจะได้รู้ว่าคุณชอบอะไรกันแน่ ผมจะได้วางตัวถูก
www.facebook.com/AlifSilpachai


“ไม่ว่าใครจะอะไรยังไงนะ ไอไม่คิดว่าสิ่งที่ยูทำไปนั้น ผิดแต่อย่างใดเลย”

มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังข่มเหงคะเนงร้ายเด็กอายุ ๗ ขวบอย่างรุนแรงอยู่
เด็กคนนั้นเป็นลูกของเพื่อนคุณ และด้วยความรักลูกที่อุ้มท้องมา
เพื่อนของคุณก็ได้วิ่งเข้าไปขึ้นเสียงเถียงทะเลาะกับชายคนนั้น เพื่อที่จะให้ชายคนนั้นออกห่างจากลูกของเขา
แต่ด้วยความพิโรธโกรธแค้น เขาใช้วาจาต่อว่าชายคนนั้นอย่างไม่สุภาพเท่าไร
ครั้นกลับมาบ้านเล่าให้คนฟัง คนโลกสวยบางคนดันมาต่อว่าเพื่อนคุณ ว่าทำไมใช้วาจาแบบนั้นต่อหน้าลูก
แต่คุณไม่เห็นว่า เพื่อนของคุณทำผิดอะไรเลย จึงอยากบอกเพื่อนว่า
“ไม่ว่าใครจะอะไรยังไงนะ ไอไม่คิดว่าสิ่งที่ยูทำไปนั้น ผิดแต่อย่างใดเลย”
ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ควรบอกว่า
“As far as I’m concerned, you didn’t do anything wrong.”
ประโยคนี้นำไปใช้กับสถานการณ์อื่นที่คล้ายคลึงกันก็ได้
www.facebook.com/AlifSilpachai